วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Le petit prince

แม่น้ำที่สำคัญ 5 สาย คือ


แม่น้ำที่สำคัญมีทั้งหมด 5 สาย คือ
1. La Seine - ต้นกำเนิดอยู่ตรงตอนเหนือของเมือง Dijon แล้วไหลลงสู่ La Manche ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส
2. La Loire - เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในฝรั่งเศส
3.La Garonne – ต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศสเปน และไหลลงมหาสมุทร Atlantique ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส
4. Le Rhin - เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในยุโรปโดยมีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไหลผ่านประเทศฝรั่งเศสและสิ้นสุดลงที่ประเทศฮอลแลนด์ตรง ทะเลเหนือ
5. Le Rhône - มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เช่นกันไหลผ่านทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

คำสรรพนามสะท้อนกลับ

อาหารเช้าควรกินอะไร?

bon anniversaire


คำว่า « bon anniversaire » เราเขียน "bon" /บง/ แต่เราต้องออกเสียงเป็น /บอน/ นะ เพราะมีการเชื่อมเสียงกับตัว a ของคำว่า anniversaire นั่นเอง ดังนั้นต้องออกเสียงว่า /บอน นานิแวคร์แซคร์/ 

ปัสสาวะบอกโรค.

นานเท่าไหร่? กว่าจะย่อยสลาย

รู้หรือไม่ว่า.. เราควรดื่มน้ำเวลาไหนบ้าง?

สัญลักษณ์ข้างขวดบอกอะไร..

5สมุนไพรไทย.. พิชิตความดันโลหิตสูง

5ผลไม้ดับร้อน

8สุดยอดธัญพืช

องุ่น


‘องุ่น’ ผลไม้ลูกจิ๋วกับประโยชน์ที่ต่างกัน ผลไม้ในประเทศไทยนั้น มีมากมายหลากหลายชนิด แต่ละชนิดให้รสชาติ และคุณประโยชน์ที่แตกต่างต่างกัน อย่างกล้วยน้ำว้า ที่มีประโยชน์ป้องกันโรคได้ตั้งแต่ดิบยันสุก "'กล้วยน้ำว้า'ผลไม้สารพัดประโยชน์ รักษาโรคตั้งแต่ดิบยันสุก" แต่ในวันนี้ เรามีผลไม้ทางเลือกสำหรับผู้รักสุขภาพอีกหนึ่งชนิดมานำเสนอ เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ ให้ผลดีกับร่างกายมากกว่ารูปร่างของมัน เจ้าผลไม้ชนิดที่ว่านั่นคือ องุ่น ผลไม้ลูกจิ๋วที่มีหลายสี ซึ่งแต่ละสีมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกัน อยากรู้ว่าต่างยังไงตามมาอ่านกัน องุ่นดำ : จากการศึกษาพบว่า องุ่นดำอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ไม่ต้องหาของกินเล่นอย่างอื่นมาทานเพิ่ม และให้แคลอรี่ต่ำ ทำให้การทำงานของลำไส้เป็นไปตามปกติ นอกจากนี้สารแอนติออกซิแดนท์ในองุ่นดำยังช่วยในการขับท็อกซินออกจากร่างกาย ซึ่งช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยค่ะ องุ่นเขียว : องุ่นเขียวอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ เช่น คาเตชิน (Catechin) และเทอร์ซอทิลบีน (Ptersotilbene) องุ่นเขียวจึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคของระบบประสาท โรคอัลไซเมอร์ และลูคีเมีย ตลอดจนป้องกันการติดเชื้อราและเชื้อไวรัสต่างๆ องุ่นแดง : องุ่นแดงนั้นจัดเป็นราชินีแห่งผลไม้ทุกชนิด และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย เพราะสีแดงเข้มของผลองุ่นประกอบด้วย สารฟลาวโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีสารอาหารสำคัญ คือ เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยชะลอความแก่ นอกจากนี้ยังมีสารซาโปนิน (Saponin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านแบคทีเรีย ไวรัส สามารถป้องกันการเกิดเนื้องอก ลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ซึ่งส่งผลต่อการป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย นอกจากคุณสมบัติและคุณประโยชน์ที่กล่าวไปข้างต้นนี้แล้ว องุ่นทุกสิ ทุกสายพันธุ์ ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ยิ่งทานยิ่งดีต่อผิวพรรณนะคะ ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

กินอะไรทำให้เม็ดเลือดขาวสมบูรณ์และแข็งแรง


กินอะไรทำให้เม็ดเลือดขาวสมบูรณ์และแข็งแรง

คำถาม : อยากทราบว่าต้องกินผลไม้หรือน้ำผลไม้หรืออาหารหรือวิตามินอะไรถึงทำให้เม็ดเลือดขาวสมบูรณ์และแข็งแรงและเพิ่มขึ้น

คำตอบ: คงจะไม่พูดเกี่ยวกับเม็ดเลือดขาว แต่จะพูดโดยรวมถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งเป็นองค์รวมมากกว่าเม็ดเลือดขาว เพราะระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง จะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคติดเชื้อธรรมดา ทั้งเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคที่เรีย ป้องกันมะเร็ง เนื้องอก จนกระทั่งถึงโรคเอดส์ ซึ่งการที่ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ ด่านแรกก็ได้มาจากอาหารที่กินอยู่ทุกวัน ซึ่งก็มีทั้งวิตะมิน แร่ธาตุ และสารสำคัญอื่นๆ

อาหารที่สำคัญๆ มีดังนี้

1.โยเกิร์ต - มีผลกระตุ้นการสร้าง gamma interferon
- กระตุ้นการทำงานของ NK cells
- เพิ่มการสร้าง antibodies
โดยมีงานวิจัยพบว่า
- โยเกิร์ตมีผลกระตุ้นการทำงานของภูมิต้านทาน ได้เทียบเท่ากับการใช้ยา Lavaesole
- การกินโยเกิร์ตวันละ 2 แก้ว นาน 1 เดือน จะทำให้ปริมาณ gamma interferon เพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กินโยเกิร์ต
- ได้มีการทดลองในหนู พบว่า การกินโยเกิร์ตจะทำให้อัตราการเกิดมะเร็งลดลง 1 ใน 3 แม้ว่าเชื้อที่อยู่ในโยเกิร์ตจะถูกทำลายไปถึง 95% ก็ตาม ดังนั้นโยเกิร์ตทั้งชนิดที่เป็น heated yoghurt และ frozen yoghurt แม้ว่าเชื้อจะถูกทำลายไปส่วนใหญ่ ก็ยังมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- การกินโยเกิร์ตวันละ 6 ออนซ์ ก็เพียงพอต่อการป้องกันหวัด ภูมิแพ้ หรือ ท้องเสีย โดยควรกินโยเกิร์ต ชนิดที่ทำจากนมไขมันต่ำ ชนิดที่มี live active cultures ก็จะมีผลกระตุ้นการสร้าง interferon

2. เห็ด Shiitake (น่าจะเป็นเห็ดหอม? หรือ เห็นหลินจือ?)
มีส่วนประกอบของสาร lentinan ซึ่งมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และต้านไวรัส

3. กระเทียม มีผลกระตุ้นการทำงานของ macrophage ได้มีการเจาะเลือดผู้ที่กินกระเทียมเป็นประจำ พบว่ามีระดับ natural killer cells สูงขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าปกติ

4. ผักและผลไม้ทุกชนิด
- พบว่าเม็ดเลือดขาวของนักมังสวิรัติ มีความแข็งแรงมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่า ทำไมนักมังสวิรัติบางคน จึงไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ
- ผักโขม แครอท kale ฟักทอง ที่อุดมไปด้วยเบต้าคาโรทีน จะมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมีงานวิจัยพบว่า การกินเบต้าคาโรทีน วันละ 30-60 มิลลิกรัม ทุกวัน จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และเมื่อหยุดให้เบต้าคาโรทีน ระดับภูมิคุ้มกันก็ลดลงจนเหลือเท่ากับก่อนที่จะทำการวิจัย

5. แร่ธาตุสังกะสี
สังกะสี ซึ่งมีมากในหอยนางรม ช่วยในการสร้าง antibody, T-cells และอื่นๆ ซึ่งถ้าร่างกายขาดสังกะสี ภูมิคุ้มกันก็ไม่สามารถทำงานได้

6. จำกัดอาหารจำพวกไขมัน
ไขมันที่มากเกินพอจะกดการทำงานของ natural killer cells ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ หรือ น้ำมันพืชชนิด omega-6 เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย จะมีผลยับยั้งการสร้าง lymphocyte ทำให้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันลดลง เนื่องจากไขมันชนิด omega-6 จะถูกทำลาย (oxidized) ได้ง่าย เกิดเป็นอนุมูลอิสระที่ทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ในขณะที่ไขมันชนิด omega-3 เช่น fish oil, olive oil จะมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

เอกสารอ้างอิง:
Carper, J. Food Your Miracle Medicine. New York: Harper Paperbacks (June 1998): 327-325

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=333&gid=9