วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส


ฝรั่งเศสหรือสาธารณรัฐฝรั่งเศส อยู่ในทวีปยุโรปตะวันตก รูปร่างเป็นหกเหลี่ยมบางครั้งคนฝรั่งเศสจึงเรียกประเทศของตนว่า Hexagone ซึ่งแปลว่ารูปหกเหลี่ยม มีพรมแดนติดกับประเทศต่างๆหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี เบลเยียม และอันดอร์รา พรมแดนทางด้านตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก และทางตะวันออกเฉียงใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนพื้นที่มีขนาดใกล้เคียงกับประเทศไทยคือ 632,834 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็น1ใน6ประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรป

ธงชาติ

ธงชาติประเทศฝรั่งเศสประกอบด้วยแถบแนวตั้งสามสี(Tricolore) คือ สีแดง สีน้ำเงิน(สีประจำกองทหารรักษาพระนครในปารีส) และสีขาว(สัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดี และเป็นสีของสถาบันกษัตริย์ในราชวงศ์บูค์บง)

ภูมิอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ 
อยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
ฤดูร้อน
อยู่ในระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง
อยู่ในระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน
ฤดูหนาว
อยู่ในระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์

เวลา
เวลาในประเทศฝรั่งเศสช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่งโมงนับตั้งแต่เข้าฤดูใบไม้ผลิ และ 6 ชั่งโมงในฤดูหนาว

ค่าเงิน


ใช้เงินยูโรเป็นหลัก




วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่าวเรืองแสงสุดมหัศจรรย์น่าทึ่งที่สุดในโลก


 
กลับมาพบกับความเป็นที่สุดในโลกกันอีกครั้ง วันนี้เราจะพาไปชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกัน หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยดูภาพยนตร์สุดอลังการ Life of Pi ที่เราได้เห็นทะเลเรืองแสงสวยงามในบางฉาก และวันนี้เราจะพาไปชมสถานที่จริงที่สามารถเรื่องแสงได้อย่างในหนังเรื่องนี้ และอาจจะเป็นไปได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือแนวคิดของฉากทะเลเรื่องแสงในหนังก็เป็นได้
สถานที่ดังกล่าวนี้มีชื่อว่า ไบโอลูมิเนสเซนท์ เบย์ (Bioluminescent Bay) เป็นอ่าวเรืองแสงขึ้นชื่อตั้งอยู่ในชายฝั่งทะเลคาริบเบียน (Caribbean coast) ในประเทศเปอร์โตริโก ความมหัศจรรย์ของน้ำทะเลที่นี่ก็คือเมื่อถึงเวลากลางคืน ถ้าเราสัมผัสกับน้ำ มันจะเรื่องแสงเป็นสีฟ้าเขียวสวยงาม 

ที่มาของแสงดังกล่าวนี้เกิดจาก แพลงตอนพืช และสัตว์ขนาดเล็ก ที่เรียกกว่า ไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellates) กว่า 720,000 เซล ต่อน้ำหนึ่งแกลลอน ซึ่งหากปลาหรือมนุษย์รับประทานเข้าไป ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารพิษที่มีผลต่อระบบประสาท และด้วยการที่แพลงตอนพืชชนิดนี้ มันจะสะสมพลังงานจากแสงอาทิตย์เอาไว้ในตอนกลางวัน และจะปล่อยแสงสีน้ำเงินออกมาในตอนกลางคืนเมื่อมีการสั่นสะเทือนของน้ำ ดังนั้นเมื่อเราสัมผัสหรือทำให้เกิดเคลื่อนไหวของน้ำจึงจะเกิดแสงสีฟ้าเขียวสวยงามนี้อ่าวเรืองแสงสุดมหัศจรรย์น่าทึ่งที่สุดในโลก

ด้านผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งชี้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากกลไกสิ่งมีชีวิตปล่อยแสงน้ำเงินที่เกิดจาก
ปฏิกิริยาทางเคมีภายในเซลล์ของมัน และเมื่อเซลล์นับพันล้านๆเซลล์รวมตัวกัน จากคลื่นที่ซัดมารวมกัน ก็จะได้ภาพเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้จะเห็นได้เฉพาะจากระยะไกล และเมื่อยามที่เรือก่อปฏิกิริยาเคลื่อนไหวต่อท้องทะเล เช่น การออกเรือ การแล่นเรือ หรือการที่คนลงไปเล่นน้ำ

การเรืองแสงของแพลงตอนดังกล่าวจะอยู่ได้นานเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจกนั้นแสงจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ แต่ว่าแสงที่เราได้เห็นนั้นในช่วงแรกจะมีความสว่างมาก ในคืนเดือนมืดถึงกับอ่านหนังสือได้เลยทีเดียว นักท่องเที่ยวนิยมพายเรือไปชื่นชมแสงมหัศจรรย์แห่งนี้ในตอนกลางคืนด้วยเรือคายัค และลงไปว่ายน้ำให้มีแสง ถือเป็นสิ่งที่สวยงามและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจริง

วัดพระปฐมเจดีย์


วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 27 ถนนขวาพระ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร  ตั้งอยู่เลขที่ 27 ถนนขวาพระ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย 
ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 218  ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 300 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประวัติความเป็นมา
           วัดพระปฐมเจดีย์ ตั้งวัดประมาณ พ.ศ. 218 เป็นวัดสมัยโบราณเดิมชื่อ "วัดพระประธม" บ้างชื่อ "วัดพระบรรทม" บ้าง  จากการสันนิษฐานของ
ม.จ.สุภัทรดิส  ดิศกุล  ว่าองค์พระปฐมเจดีย์สร้างเมื่อ พ.ศ. 350  ในสมัยพระอโศกมหาราชแห่งประเทศอินเดีย  ทรงจัดส่งพระสมณทูตมาประกาศพระศาสนาในสุวรรณภูมิ 
องค์พระปฐมเจดีย์เป็นพระเจดีย์องค์แรกที่สร้างขึ้นในประเทศไทย  บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเจดีย์องค์เดิมสูง 16 วา 2 ศอก รูปทรงคว่ำ 
ต่อมาสมัยพระยาพานขึ้นครองเมือง  ได้ต่อเติมองค์พระปฐมเจดีย์ให้สูงขึ้นอีกรวมความสูง 40 วา 2 ศอก เพื่อไถ่บาปที่ตนฆ่าพระยากงผู้บิดาและยายหอมที่ชุบเลี้ยงตนมา
            ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ครั้งใหญ่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพิจารณาลักษณะการก่อสร้างและสภาพ
โดยทั่วไปทรงเห็นว่าน่าจะเป็นพระสถูปเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เพราะมีรูปทรงเดียวกับพระสถูปรามเจดีย์ ในกรุงอนุราชบุรี เกาะสิงหลทวีปหรือประเทศ
ศรีลังกาในปัจจุบัน ทรงเชื่อมั่นว่าเป็นพระเจดีย์องค์แรกที่สร้างขึ้นในแถบนี้และเป็นวัดแรก ทรงพระราชทานนามพระสถูปเจดีย์ว่า"พระปฐมเจดีย์" และพระราชทานนามวัดว่า
"วัดพระปฐมเจดีย์" ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์โดยสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ครอบพระเจดีย์องค์เดิมเริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2390 แต่ยังไม่แล้วเสร็จด้วยสวรรคตเสียก่อนในปี พ.ศ. 2411 
            ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบูรณะและปฏิสังขรณ์เพิ่มเติม ได้เสด็จพระราชดำเนินมายกยอดพระปฐมเจดีย์เมื่อปี พ.ศ. 2413
ปัจจุบันรูปพระเจดีย์เป็นรูประฆังคว่ำยอดแหลมครอบซ้อนอยู่กับพระเจดีย์ยอดปรางค์ของพระยาพาน จากบันทึกของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค)
บันทึกไว้ว่าวิหารหลวงและพระอุโบสถตั้งอยู่จุดเดียวกับที่ตั้งของพระอุโบสถปัจจุบัน  ส่วนกุฏิสงฆ์เดิมตั้งอยู่บริเวณลานหน้าพระพุทธรูปศิลาขาว ต่อมาได้ย้ายมาตั้งอยู่บริเวณ
ลานหน้าพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ ด้านทิศเหนือองค์พระปฐมเจดีย์  ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้บูรณะและปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ โปรดเกล้าให้สร้างกุฏิสงฆ์ จำนวน 25 หลัง
สร้างศาลาการเปรียญและหอฉัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้สร้างทางรถไฟจากกรุงเทพถึงนครปฐม ได้ย้ายกุฏิสงฆ์ทั้งหมดและอาคารเสนาสนะมาตั้งอยู่บริเวณถนนขวาพระ
ซึ่งเป็นบริเวณเขตสังฆาวาสในปัจจุบัน  องค์พระปฐมเจดีย์นำชื่อเสียงมาสู่วัดพระปฐมเจดีย์เป็นอย่างมาก  เป็นที่รู้จักของชาวไทยพุทธศาสนิกชนและชาวต่างประเทศ 
ปัจจุบันองค์พระปฐมเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะแบบทรงไทย รูประฆังคว่ำ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีส้ม สูง 120 เมตร 45 เซนติเมตร ประกอบด้วยวิหาร
4 ทิศ มีกำแพงแก้ว 2 ชั้นล้อมรอบ
            ปัจจุบัน พระธรรมปริยัติเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม ป.ธ.9 ศศ.บ. พธ.บ. พธ.ด.)  ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ดูแลสมองกันด้วยนะคะ ...

สำหรับคนที่กำลังปวดคอ ... ลองดูนะคะ!!

แค่ขยับ .. ก็ได้ประโยชน์

กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน!

แบ่งเวลางาน ....


6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศ

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ASIATIQUE THE RIVERFRONT



HISTORY
ประวัติศาสตร์ของ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์/The history of ASIATIQUE the riverfronในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ซึ่งตรงกับยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ประเทศ ในแถบทวีปเอเชียถูกรุกรานโดยชาติมหาอำนาจจากยุโรป และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุดหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ จึงทรงตัดสินพระทัยเจริญสัมพันธไมตรีกับราชอาณาจักรเดนมาร์ก พร้อมกับการก่อกำเนิดท่าเรือของบริษัท อีสท์ เอเชียติก
ซึ่งมีนายฮันส์ นิลล์ แอนเดอร์เซน ชาวเดนมาร์กเป็นเจ้าของ เพื่อการค้าไม้สักไปต่างประเทศ จึงสร้างท่าเรือขนถ่ายสินค้าขึ้น ณ ท่าเรือแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของประตูการค้าสากลระหว่างสยามประเทศและยุโรป เป็นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้สยามดำรงความเป็นเอกราชมาจนปัจจุบัน
ในวันนี้ ณ ผืนแผ่นดินเดิม อันเป็นที่ตั้งของท่าเรือ อีสท์ เอเชียติก ได้ถูกเนรมิตให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ “ASIATIQUE The Riverfront” โครงการไลฟ์สไตล์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดของกรุงเทพมหานคร
                                           CORPORATE INFORMATION
 บริษัท ริเวอร์ไซด์ มาสเตอร์แพลน เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น(Thai Charoen Corporation Group) หรือ TCC Groupซึ่งได้ก่อกำเนิดขึ้นจากพื้นฐานความตั้งใจ ของคุณเจริญและคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่มีความมุ่งมั่นต้องการเห็นธุรกิจของคนไทยแข็งแกร่ง เป็นที่เชื่อมั่นและ สามารถก้าวสู่การแข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มต้นจาการพัฒนากิจการจากเล็กสู่ใหญ่ จากการขายสินค้าให้โรงงานสุรา พัฒนามาสู่การเป็นเจ้าของโรงงานสุรา จนได้รับสัมปทานโรงงานสุราทั้งหมดเมื่อเข้าสู่ยุคการค้าสุราเสรี ได้ประมูลโรงกลั่นสุราในนามกลุ่มแสงโสม และได้ขยายกิจการไปสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง เช่น เบียร์ แอลกอฮอลล์ น้ำตาล บรรจุภัณฑ์ และอื่นๆ ตลอดจนได้เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น การลงทุนในกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล กลุ่มนอร์ธปาร์ค กลุ่มพันธ์ทิพย์ รวมทั้งได้เข้าลงทุนในกิจการของกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ เช่น กลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และกลุ่มอาคเนย์ประกันภัย ประกันชีวิต เป็นต้น
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ถือกำเนิดขึ้น ภายใต้แนวคิด Festival Market and Living Museum แหล่งท่องเที่ยวและไลฟไสตล์ช้อปปิงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นพื้นที่ซึ่งได้ออกแบบให้พร้อมด้วยองค์ประกอบหลากหลาย เพื่อรองรับและเติมเต็มความต้องการของนักท่องเที่ยวและคนหลากหลายกลุ่มได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ย่านเจริญกรุง ประกอบไปด้วย ร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว และสินค้าของตกแต่งบ้าน ที่สวยงามหลากหลาย อีกทั้งยังมีโรงละคร ที่รองรับผู้ชมได้กว่า 400 ที่นั่ง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมไทย กับหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ หรือโชว์สุดอลังการจากคาลิปโซ่ รวมถึงร้านอาหารชั้นนำ ย่านกลางเมือง เป็นลานจัดกิจกรรมกลางแจ้ง และโซนอาหารนานาชาติ ที่รวบรวมอาหารขึ้นชื่อจากประเทศต่างๆ ในบรรยากาศง่ายๆ สบายๆ พร้อมรื่นเริงไปกับ เครื่องดื่มและเบียร์เย็นๆ ที่ Asia House
ย่านโรงงาน เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์แห่งใหม่บนถนนเจริญกรุง ที่รวบรวมร้านอาหาร ผับ และร้านค้ามีสไตล์มากมาย ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกงาน พรั่งพร้อมไปด้วยสินค้าแฟชั่น และของประดับตกแต่ง ให้เลือกซื้ออย่างจุใจ ในบรรยากาศสนุกสนานยามค่ำคืน ย่านริมน้ำ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบพาโนราม่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยทางเดินริมแม่น้ำที่ยาวกว่า 300 เมตร พบกับร้านอาหารมีระดับ มากมาย ทั้งอาหารญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน ไทย จีน และซีฟู้ด
นอกจากนี้ ภายในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ได้สอดแทรกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อเป็นการให้ความรู้ในลักษณะจดหมายเหตุ เกี่ยวกับความสำคัญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา การค้าขายกับต่างประเทศในยุคล่าอาณานิคม พร้อมบอกเล่าถึงความเจริญของสถาปัตยกรรมในยุคนั้น ด้วยการปรับปรุงอาคารเก่า และรักษาโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมในสภาพเดิมไว้เกือบทั้งหมด
OFFICE HOURSE
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.30น. - 18.30น. 
บริษัท ริเวอร์ไซด์ มาสเตอร์แพลน จำกัด เลขที่ 2194 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120
หมายเลขโทรศัพท์:
02-108-4488

สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ

สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่นิยมเรียกว่า สวนรถไฟ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 375 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักรเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ติดกับสวนสาธารณะอีก 2 สวน คือ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนจตุจักร อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

ภายในสวน

  • เล่นจักรยาน สวนวชิรเบญจทัศ เป็นเล่นสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ รอบ ๆ สวน สำหรับผู้ที่นิยมขี่จักรยาน ซึ่งทางสวนฯมีบริการให้เช่าจักรยานสำหรับขี่ มีจักรยานให้เลือกขี่หลายแบบ อัตราค่าบริหารคันละ 20 บาท โดยไม่จำกัดเวลา
  • อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ เป็นอาคารที่จัดแสดงและเพาะเลี้ยงผีเสื้อและแมลงชนิดต่าง ๆ ขนาดเนื้อที่ 1 ไร่ โดยจัดภูมิทัศน์แบบธรรมชาติ ประกอบด้วยพรรณไม้ต่าง ๆ บ่อน้ำ ลำธาร น้ำตกเล็ก ๆ รวมทั้งพืชพรรณที่เป็นอาหารของผีเสื้อ ภายในตึกจัดเป็นนิทรรศการแสดงเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผีเสื้อ เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าเข้าชม ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. ปิดวันจันทร์ เปิดทำการครั้งแรกในปลายปีพ.ศ. 2547
  • สวนนันทนาการชุมชนสวนรถไฟ เป็นส่วนที่ให้บริการด้านกิจกรรมนันทนาการรูปแบบต่าง ๆ มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กที่ตกแต่งด้วยน้ำพุ สร้างความเพลิดเพลิน เปิดบริการ 6.00-20.00 น.
  • ค่ายพักแรม เป็นสถานที่ใช้จัดกิจกรรมกลางแจ้งและตั้งค่ายพักแรมของเด็กนักเรียนเยาวชน
  • สวนป่าใหญ่ในเมือง เป็นสวนป่าจำลองระบบนิเวศวิทยาของป่าเพื่อทำกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติ เพื่อการเรียนรู้ สามารถเข้าถ่ายภาพได้
  • เมืองจราจรจำลอง เป็นสถานที่จำลองสิ่งก่อสร้างและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทยมารวมกันไว้ อาทิ สะพานพระราม 8, ภูเขาทอง, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น อีกทั้งยังใช้เป็นที่ฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องการขับขี่ยวดยานและการจราจรแก่เด็ก ๆ และเยาวชน
  • ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ เป็นอาคารในพื้นที่ 30 ไร่ ที่เป็นศูนย์รวมของการเล่นกีฬาและออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ ครบวงจร เช่น ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ห้องฝึกโยคะ, สนามเทนนิส, สนามฟุตซอลรวมถึงห้องบริการต่าง ๆ เช่น ห้องอาบน้ำ, ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว โดยสร้างขึ้นตามนโยบายของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นับเป็นศูนย์กีฬาครบวงจรแห่งแรกในสังกัดของกรุงเทพมหานคร เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 โดยการใช้บริการของส่วนนี้ เสียค่าบำรุงสถานที่ปีละ 40 บาท
  • สวนปิกนิก ฟ้าใส ไม้สวย ด้วยแรงใจ ปตท.สผ. เป็นสถานที่พื้นที่กว่า 4 ไร่ ด้วยการสนับสนุนของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) สำหรับจัดปิกนิก เป็นลานร่มรื่น มีเตาปิ้งสำหรับปิ้งอาหารทานเองได้ และมีบึงน้ำขนาดใหญ่ให้เช่าเรือพายเล่น ราคาลำละ 50 บาท ต่อเวลาครึ่งชั่วโมง เปิดบริการ 7.00-21.00 น.
  • หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือ สวนโมกข์กรุงเทพ เป็นสาขาของสวนโมกขพลาราม สถานที่ปฏิบัติธรรมและค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับธรรมะ สร้างตามดำริของท่านพุทธทาส อินทปัญโญ ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 160 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เปิดอย่างเป็นทางการวันแรกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553
  • ศูนย์อาหาร เป็นที่ตั้งของร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ต่าง ๆ อยู่บริเวณใกล้ทางเข้าด้านถนนวิภาวดีรังสิต เปิดให้บริการถึง 21.00 น.

ประโยชน์ของผลไม้ห้าสี

ประโยชน์ของผลไม้ห้าสี

ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี มีดังนี้
ผักผลไม้สีเขียว
 พบมากในผักผลไม้สีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ฯลฯ และพบได้ในผักและผลไม้สีเขียวทั่วไป เช่น แอบเปิ้ลเขียว ฝรั่ง องุ่นเขียว เป็นต้น ซึ่งในผักผลไม้สีเขียวนี้มีสารที่ชื่อว่า คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) ในผักผลไม้สีเขียวนี้อุดมไปด้วยสารต่อต้านการเกิดมะเร็งได้เป็นอย่างดีที เดียวค่ะ ทำให้ผิวพรรณของคุณผู้หญิงเปล่งปลั่งสดใส ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้การทานผักผลไม้สีเขียวเป็นประจำจะช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายของคุณ ผู้หญิงดี ขับถ่ายคล่องเนื่องจากมีกากใยเยอะ
ผักผลไม้สีแดง พบมากในมะเขือเทศ เชอรี่ บีทรูต แคนเบอรี ทับทิม ซึ่งในผักผลไม้สีแดงเหล่านี้ มีสารที่ชื่อว่า ไลโคปีน (Cycopene) และ เบตาไซซีน (Betacycin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดมะเกผลไม้สีแดงมีความสำคัญและจำเป็นมากต่อผู้ชายทุกท่าน เนื่องจากมีสารต่อต้านการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ค่ะ และนอกจากนี้ มะเขือเทศ ยังช่วยลดอาการเกิดสิวและยังทำให้รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวบนใบหน้าคุณ ผู้หญิงจางลงได้ค่ะ
ผักผลไม้สีเหลือง พบมากในข้าวโพด มีสารที่ชื่อว่า ลูทีน (Lutein) ซึ่งช่วยป้องกันความเสื่อมของจุดสีที่อยู่ในเรตินา ในดวงตาของคุณผู้หญิงค่ะ ประโยชน์ของผักผลไม้สีเหลือง อย่างข้าวโพดนั้น ยังช่วยล้างพิษในร่างกายคุณผู้หญิงได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ หากขาดผักผลไม้สีเหลืองแล้วเมื่ออายุมากขึ้นอยู่ในวัยชราแล้ว เป็นสาเหตุให้ดวงตาพร่ามัว มองไม่ชัดหรือมองไม่เห็นได้ค่ะ
ผักผลไม้สีส้ม พบมากในมะละกอและแครอท มีสาร เบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล หรือ ไขมันในเส้นเลือดได้ หากคุณผู้หญิงคนไหนรับประทานผักผลไม้สีเหลืองติดต่อกัน จะช่วยรักษาเรื่องฝ้าที่เกิดบนผิวหน้าได้ แต่ถ้าทานมากไปก็ไม่ดีนะคะ ดังนั้นคุณผู้หญิงควรเลือกทานในปริมาณที่พอเหมาะ สลับกันไปกับการทานผักผลไม้สีอื่นๆ ด้วยค่ะ
ผักผลไม้สีม่วง พบมากในมะเขือสีม่วง แบล็กเบอรี บลูเบอรี อัญชัน มีสาร แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) มีคุณสมบัติทำลายสารที่ก่อใหเเกิดมะเร็ง ช่วยขยายหลอดเลือด นอกจากนี้ยังช่วยคุณผู้หญิงลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และการเกิดอัมพาตได้ด้วยค่ะ

การวิ่งจ็อกกิ้งเบื้องต้น

การวิ่งจ็อกกิ้งเบื้องต้น

กิจกรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากในสวนรถไฟก็คือการวิ่งจ็อกกิ้ง  ด้วยบรรยากาศภายในสวนรถไฟที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และอากาศที่ดีเยี่ยม ทำให้การได้มาวิ่งจ็อกกิ้ง ที่นี่ ได้รับความนิยมอย่างสูง
      เรามาเริ่มเีรียนรู้การวิ่งจ็อกกิ้งเบื้องต้นกันเลยดีกว่า การออกกำลังกายที่หัวใจและปอดได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การไหลเวียนเลือดเป็นไปอย่างดี เราเรียกการออกกำลังกายประเภทนี้ว่า 
แอโรบิก เอ็กเซอร์ไซส์ ซึ่งหมายถึการใช้ออกซิเจนอย่างสม่ำเสมอในการออกกำลังกาย ไม่ใช่หอบแฮ่กๆๆ การเดินเร็ว วิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือแม้แต่เล่นสกี การออกกำลังกายเหล่านี้ จะต้องอาศัยการทำงานของปอดและหัวใจอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอเหมือนรถที่วิ่งในความเร็วคงที่ แบบการเล่นกีฬาบางประเภทที่มีทั้งอยู่กับที่ วิ่งเร็วบ้าง วิ่งช้าบ้าง แบบนั้นไม่ใช่การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งทำร้ายการทำงานของหัวใจมากกว่าการช่วยให้หัวใจแข็งแรง
            เริ่มแรกไม่ต้องเน้นความเร็ว การออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน็ให้เน้นที่ระยะเวลามากกว่าระยะทาง เริ่มแรกควรวิ่งได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 20 นาที ในระยะเวลา 20 นาทีนี้ถ้ามีเพื่อนวิ่งด้วย ให้วิ่งแบบวิ่งไปคุยกันไปรู้เรื่อง ถ้าเริ่มคุยไม่ได้ เริ่มหอบ หายใจไม่ทัน แสดงว่าวิ่งเร็วเกินไปแล้ว ให้ลดความเร็วลงมา
วิ่งจ๊อกกิ้งไม่ใช่วิ่งเร็วหรือวิ่งแข่ง และที่สำคัญที่สวนรถไฟมีเพื่อนๆวิ่งกันเยอะๆ วิ่งช้าอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ
            การลงเท้าสัมผัสพื้นเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมากเพื่อลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง ภายในสวนรถไฟบางจุดมีสภาพถนนที่ค่อนข้างไม่ราบเรียบ อาจทำให้ข้อเท้่าพลิกได้  และอย่าลงด้วยปลายเท้าแบบนักวิ่งร้อยเมตรเพราะจะทำใ้ห้กล้ามเนื้อด้านหน้าแข้งเกิดอาการตะคริวหรือเจ็บปวดได้ ขอให้วิ่งลงส้นเท้าหรือตั้งแต่กลางเท้าสัมผัสพื้นก่อน แล้วค่อยตามด้วยปลายเท้าด้านหน้า
           ไม่ควรกินอาหารหนักก่อนวิ่งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะร่างกายต้องการเลือดส่วนใหญ่ไปที่กระเพาะอาหาร แต่ก็อาจจะทำใจยากเหมือนกัน เพราะสวนรถไฟเต็มไปด้วยร้านอาหารที่อร่อยๆทั้งนั้น และการทานอาหารก่อนวิ่ง หากเราไปออกกำลังกายช่วงนี้ เลือดในร่างกายก็ถูกดึงไปใช้เลี้ยงกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และทำให้จุกเสียดท้องได้
           ควรทำสัปดาห์ละอย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ร่างกายถึงจะได้ประโยชน์ และด้วยความเร็วขนาดนี้ ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี และได้ของแถมเป็นหัวใจแข็งแกร่งและปอดจะแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสวนรถไฟครับ

สวัสดีอาเซียน

“บั๊ดสลบ” จังหวะท่าเต้นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของลาว

“บั๊ดสลบ” จังหวะท่าเต้นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของลาว


แม้วัยรุ่นของลาวจะได้รับอิทธิพลความบันเทิงจากชาติอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วจังหวะท่าเต้นทางวัฒนธรรมของลาวอย่าง บั๊ดสลบ ก็ยังเป็นการเต้น ที่ทำให้เกิดช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นในหมู่เครือญาติเพื่อนฝูง และเป็นวิถีความสุขที่เรียบง่ายอย่างแท้จริง
หากนึกถึงโอกาสดีๆ ที่ต้องมีจังหวะสนุกๆ มาร่วมด้วย คนไทยก็ต้องยกให้ "รำวง"  ซึ่งชาวลาวก็มีอุปนิสัยรักสนุก ชอบงานรื่นเริงไม่ต่างกัน ตัวอย่างคือ การเต้นบั๊ดสลบ
ต้องใช้เวลาหัดนับจังหวะกันอยู่พักใหญ่กว่า "สอน" พระเอกของภาพยนต์เรื่องสบายดีหลวงพระบาง หนังร่วมทุนไทย-ลาว จะเต้นบั๊ดสลบได้ ซึ่งเป็นอีกฉากน่ารักที่เพิ่มอรรถรสให้กับภาพยนตร์ในเรื่องดังกล่าว ฉากวัฒนธรรมที่ไม่เพียงอยู่บนแผ่นฟิล์ม แต่ยังเห็นตามงานมงคลในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่เว้นแม้แต่สถาน บันเทิงยามราตรี ก็ยังมีจังหวะสนุกๆ สอดแทรกไว้ให้หนุ่มสาวได้เต้นบั๊ดสลบร่วมด้วยเสมอ
ไม่เพียงต้องเต้นถูกตามจังหวะเท่านั้น แต่สะโพก และเอวที่พลิ้วไหวเข้าท่วงทำนอง ทำให้เห็นว่าน้องๆ จากวิทยาลัยนาฏศิลป์จากลาว เต้นบั๊ดสลบกันเป็นประจำ อีกเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ซึมซับกันมาตั้งแต่ยังเล็ก เสียมอัมพร และ กลุ่มเพื่อนสนิท ยอมรับว่าวัยรุ่นลาวรับอิทธิพลความบันเทิงจากภายนอกมาไม่น้อย ทั้งฟังเพลงสากล และเพลงไทยตามประสาวัยรุ่น แต่ท้ายสุดแล้ว บั๊ดสลบ ก็ยังเป็นการเต้น ที่ทำให้เกิดช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นในหมู่เครือญาติเพื่อนฝูง และเป็นวิถีความสุขที่เรียบง่ายอย่างแท้จริง
วัฒนธรรมร่วมไทย-ลาว อย่างบั๊ดสลบ ยังมีให้เห็นในแถบอีสานบ้านเรา ทั้งที่ จ.หนองคาย, จ.เลย, จ.อุดรธานี, จ.สกลนคร, จ.นครพนม และ จ. มุกดาหาร ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ความสุขในงานมงคลของชาวลาวเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาที ยังทำให้ได้เห็นภาพการให้เกียรติกัน และท่าทีถ้อยอาศัย ซึ่งล้วนเป็นอุปนิสัยที่สะท้อนผ่านวัฒนธรรมของชาวลาว

สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์

ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthaiftghty

เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์

สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมันเป็นบริเวณดินแดนอาถรรพณ์ อันเป็นที่ล่ำลือกันว่าเต็มไปด้วยความลี้ลับ มันเป็นดินแดนที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเลที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเล เครื่องบินที่โชคร้ายบังเอิญผ่านเข้าไปก็อาจหายสาบสูญไปอย่างไม่มีร่องรอยให้เห็นอีกเลย (ฟังดูน่ากลัวจัง >,<)?นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณ เบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอน เป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
มารู้จัก สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า กันหน่อย!
  • สามเหลี่ยมเบอร์มิวดามีเนื้อที่ประมาณ 1.14 ล้านตารางกิโลเมตร (4.4 แสนตารางไมล์) อยู่ระหว่างจุด 3 จุดได้แก่?เปอร์โตริโก?ปลายสุดของรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา?และเกาะเบอร์มิวดา
  • เป็นเกาะตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติกและดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักร?มีพื้นที่ครอบคลุมช่องแคบฟลอริดา?หมู่เกาะบาฮามาส?และหมู่เกาะแคริบเบียนทั้งหมด
  • แต่แนวคิดที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายกว่า เนื่องจากปรากฏในงานเขียนจำนวนมาก ระบุว่า จุดปลายสุดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ได้แก่ ชายฝั่งแอตแลนติกของไมอามี,?ซานฮวน?เปอร์โตริโก, และเกาะเบอร์มิวดา ด้วยเหตุว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งด้านใต้โดยรอบหมู่เกาะบาฮามาสและช่องแคบฟลอริดา
  • พื้นที่ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ที่หนาแน่นที่สุดในโลก โดยมีเรือผ่านพื้นที่นี้เป็นประจำทุกวันมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าในทวีปอเมริกา?ทวีปยุโรป?และหมู่เกาะแคริบเบียน เรือสำราญที่ผ่านพื้นที่นี้ก็มีมากเช่นกัน เรือเที่ยวเองก็มักจะมุ่งหน้าไปและกลับระหว่างฟลอริดากับแคริบเบียนอยู่เป็นปกติ นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีการสัญจรทางอากาศอย่างหนาแน่น ทั้งอากาศยานพาณิชย์และส่วนตัว ซึ่งมุ่งหน้าไปยังฟลอริดา แคริบเบียน และทวีปอเมริกาใต้
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai100000
เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์??(Bermuda Triangle)
  • สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์?โดยแท้จริงแล้ว เป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมพื้นทะเลตั้งแต่ตอนเหนือของหมู่เกาะเบอรืมิวด้าไปยังทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดาตีวงออกไปในทะเลทางตะวันออกไปจนภึงหมู่เกาะบาฮามัส เลยไปอีกจนถึงอ่าวเม็กซิกโน้นแหนะ ..
  • ถ้าดูตามแผนที่จะครอบคลุ่มพื้นที่ประมาณ 380,000 ตารางไมล์ทะเล ซึ่งถ้าดูกันจริงๆ แล้ว มันไม่ใช่พื้นที่เป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนกับชื่อของมันเลย ไม่ทราบว่าชื่อ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า” นี้ได้มาอย่างไร? (นั่นสิ!;) มีผู้พยายามตั้งชื่อเสียใหม่ว่า “บริเวณดินแดนปิศาจ” บ้างก็เรียกว่า “สามเหลี่ยมปีศาจ” (Devil’s Triangle)
  • ตามชื่อเสียงของมันได้ถูกขนานนามขึ้นมาในราวๆ ปี ค.ศ.1960 เลื่องลือกันไปทั่วถึงอันตรายของการหายสาบสูญอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา จากบันทึกของกองเรือยามฝังสหรัฐฯ และบริษัทประกันภัยทางทะเล บริษัทประกันภัยเรือเดินสมุทรและเครื่องบิน มีสถิติความสูญหายอย่างผิดปกติในอาณาบริเวณนี้เป็นบริเขตต้องห้ามและเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai6_0
ความอาถรรพณ์ ของ?สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)
สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนอาถรรพ์ มรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่านเข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาดอาจเป็นเพราะความเชื่อในเรื่องอันพิลึกกึกกือที่เป็นข่าวระบือลือลั่นกันไม่รุ้จบระหว่างคนในระแวกนั้น เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ มักจะเกิดขึ้นกับเรือ หรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น
  • นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน จากสถิติของบริษัท Lioyd’s ov London ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยเรือเดินสมุทร พบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ถึง 1973 (ราว 10 ปี) มีเรือในประกันของบริษัทจำนวน 60 ลำ รวมผู้โดยสาร 900 คน ได้หายสาบสูญไปในบริเวณน่านน้ำเบอร์มิวด้า
  • โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1967 มีเรือทะเล?เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายไปอย่างลึกลับเป็นจำนวน 15 ลำ ทั้ง 15 ลำ ไม่มีการส่งสัญญาณ “SOS” หรือส่งวิทยุขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่แปลกน่าฉงน และน่ากลัวที่สุดก็คือ เรือทั้ง 15 ลำนั้นเป็นเรือขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ช่วยในการเดินเรือแบบทันสมัยบริบูรณ์ เช่นวิทยุสื่อสาร เราดาร์นำร่องโซนาร์นำร่อง การค้นหาได้กระทำกันเป็นเดือนๆ แต่ก็ประสบผลล้มเปลวโดยสิ้นเชิงไม่พบแม้แต่เงา นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ไดมาจากบริษัทประภัยของเอกชนที่ต้องจ่ายประกันไปจนบริษัทแทบล้มละลาย น้ำมาซึ่งความงุนงง ให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างสิ้นหวัง อะไรเกิดขึ้นกับเรือเหล่านั้น ลูกนาวี 900 คนหายไปไหนใครบ้างจะมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้
  • ตัวอย่างอีกรายหนึ่งที่จะขอยกมาให้พิจารณาว่ามันเป็นอาถรรพณ์ของดินแดนมรณะแห่งนี้ (หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ) คือ การหายสาบสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดนาวีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 , เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ 1 ฝูงบิน (5 เครื่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องทั้งหมด 14 นาย?ได้ออกทำการบินฝึกทิ้งระเบิดเหนือดินแดนเบอร์มิวด้า ห่างจากฐานทัพฟอร์ทล๊อคเดอร์เดลประมาณ 225 ไมล์ และแล้ว ฝูงบินทั้ง 5 ลำก็หายสาบสูญ ไม่เหลือแม้แต่เงา นาวีสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินผู้ประสบภัยมาร์ติน มารีนเนอร์ แบบ PBM (เป็นเครื่องบินน้ำ 2 เครื่องยนต์) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง 13 นาย อกตามหา 20 นาทีต่อมา PBM ก็หายสาบสูญ โดยขาดการติดต่อกับหอบังคับการ และหายไปอย่างลึกลับเช่นกันไม่มีเหลือแม้แต่เงา
  • มันจะเป็นเหตุบังเอิญ อุบัติเหตุ หรือเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริง แนวโน้มจากสถิติการสูญหายอาจบอกเราได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณเบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอนเป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
  • สถิติการสูญหายมีมากที่สุดในปี ค.ศ. 1975 คิดมีการสูญสาย 11 ราย เฉลี่ยเดือนละราย เมื่อเปรียบเทียบความเสียหายในบริเวณนี้กับบริเวณเส้นทางเดินเรืออื่นๆ แล้ว พบว่าแถบเบอร์มิวด้าต้องเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ เพราะในน่านน้ำที่อื่นๆ ไม่มีสถิติการสูญหายมากเท่านี้เลย O,O!!!
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display
เรื่องเล่า?ความอาถรรพณ์ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า จากผู้ที่บังเอิญรอดตาย!!
ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มาจากบรรดาผู้ที่บังเอิญรอดตายหรือหลบหลีกกับได้ จากบันทึกการติดต่อครั้งสุดท้ายโดยวิทยุกับพวกที่หายสาบสูญไป มีรายงานที่น่าสนใจหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าอะไรก็ตามที่ได้เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ที่ยังไม่มีมนุษย์หน้าไหนเคยรู้จักกันมาก่อน
1. รายงานที่พบเป็นประจำ การขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำล่อง
  • ตัวอย่างรายงานทำนองนี้ได้แก่รายงานทางวิทยุครั้งสุดท้ายก่อนการหายสาบสูญไป ของนักบิน นาวีร้อยเอกเทเลอร์ (Charles Taylor) ได้ส่งวิทยุติดต่อแจ้งเข้ามา ยังหอบังคับการบินที่ Fort Lauderdale Naval Air Station ในขณะที่กำลังบินกลับจากการฝึกบินตามปกติ เขาแจ้งเข้ามาด้วยวิทยุความถี่ฉุกเฉินว่า “เข็มทิศหมุนอย่างบ้าคลั่ง ผมจับทิศไม่ถูกแล้วผมไม่ทราบตำแหน่งว่าผมอยู่ที่ไหน” จากนั้นเสียงก็ขาดหายไป และแล้วร้อยเอกเทเลอร์กับเครื่องบินของเขาก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีกเลย เขาหายสาบสูญไปชั่วนิรันดร
  • ?ข้อมูลประการที่หนึ่งที่เราพบก็คือ มีพลังบางอย่างที่มีผลกระทบกับเครื่องมือนำทาง เช่นเข็มทิศ เครื่องวัดความสูง เครื่องวัดความเร็ว และเครื่องมือสื่อสาร นั่นคืออำนาจลึกลับนี้มีผลกระทบกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งหมด โดยเฉพาะเข็มทิศแม่เหล็ก
2. เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทความรู้สึกในการรับรู้ทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์
  • ทำให้ผู้นั้นงุนงง สับสนต่อเหตุการณ์ และที่สุดคือสูญเสียความรู้สึกในเรื่องเวลา และการทรงตัว คาดว่ามีสาเหตุอีหหนึ่งอย่างจากผลกระทบกับเครื่องมือนำทาง ทำให้เสียการควบคุม
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display (1)
3. มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาด
  • นี่คือข้มูลอีกข้อหนึ่งที่เราจะพบเสมอจากรายงานครั้งสุดท้ายของผู้ที่หายสาบสูญไปในดินแดนอาถรรพณ์ ดังตัวอย่างการหายสายสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดที่ 19 ของนาวีสหรัฐอเมริกา (หายทั้งฝูงเลย) มีเครื่องบินแบบ TBM อเว็งเจอร์ จำนวน 5 ลำ ได้ออกบินฝึกตามภารกิจปกติ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 และได้หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ ถึงแม้จะมีการระดมหน่วยค้นหาตามล่ากันอย่างละเอียดถี่ถ้วนครอบคลุมพื้นที่ทุกๆ ตารางฟุต กว้างถึง 380,000 ตารางไมล์ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา
  • รายงานสุดท้ายที่จ่าฝูง.ร้อยเอก โรเบิร์ต คอส รายงานมา รับฟังได้จากวิทยุ ณ ฐานทัพภาคพื้นดิน ตอนหนึ่งกล่าวด้วย น้ำเสียงของคนตกใจสุดขีดว่า.. “อย่าตามผมมา แยกกันออกไป แยกกันออกไป” แล้วเสียงวิทยุก็ถูกตัดขาดทันที เหมือนกับว่ามีใครไปปิดเครื่องส่งของเขาฉะนั้น ร้อยเอกโรเบิร์ต คอส บินเข้าไปพบอะไร ไม่มีใครทราบ แต่สิ่งที่เขาพบต้องเป็นสิ่งที่น่ากลัวจนทำให้เขาสั่งลูกฝูงไม่ให้บินตามเข้าไป แต่ก่อนหน้านั้นมีเสียงวิทยุโต้ตอบกันระหว่างจ่าฝูงกับลูกฝูงของเขา ซึ่งรับฟังได้ยินไม่ชัดเจน เป็นเสียงขาดๆ จางๆ และมีคลื่นแทรกรบกวนมาก พอจะจับความได้บ้างบางตอนว่า ฝูงบินที่ 19 กำลังหลงเข้าไปในสภาพบรรยากาศอันผิดปรกติ แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง
Picture1
ปรากฏการณ์ “หมอกเรืองแสงสีขาว”
  • นี่คือข้อมูลที่ได้รับจากวิทยุติดต่อกันระหว่างฝูงบินที่ 19 เสียงจ่าฝูงดังมาแล้วได้ยินชัดว่า “สงสัยว่าเราหลงทางทำไมแถวนี้มีแต่หมอกสีขาวเรืองแสงไปหมด เฮ้ พื้นน้ำเป็นสีขาว ไปหมด มองไม่เห็นท้องฟ้า มันขาวโพลนไปหมด” นี่เราอยู่ที่ไหนกัน เข็มทิศผมมันหมุนติ้วไปหมดแล้ว “แล้วทุกอย่างก็เงียบหายไป ฝูงบินที่ 19 หายสาบสูญไปจากโลกของเรา
  • อีกตัวอย่างหนึ่ง ได้แก่รายงานการหายตัวอย่างลึกลับของเครื่อง 727 หายวับจากจอเรดาร์ของสนามบินไมอามี่ ขณะเรื่อง 727 ลำนั้นกำลังปักหัวลงสู่สนามบิน ของสายการบิน National airline บินดำดิงลงมา ผ่านเข้าหมูเมฆขาวก้อนเล็กๆ จู่ ๆ ก็หายวับไปจากจอ เรดาร์ พนักงานหอบังคับการต่างวิ่งกันวุ่นกรดปุ่มสัญญาณเตรียมลงฉุกเฉิน บางคนกล้องส่องทางไกล เผ่นออกไปนอกบังคับการ เพื่อมองหาแต่ไม่มีใครเห็นอะไร นอกจากก้อนเมฆก้อนนั้น ภาพปรากฏใหม่บนจอเรด้าร์ แล้ว 727 ก็บินลงสนามทางปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งบินและผู้โดยสานเครื่องบิน 727 ต่างงงไปตามๆ กันเมื่อเห็นว่ามีรถดับเพลิง รถพยาบาล รถกู้ภัย ของสนามบินต่างวิ่งตามกันมาห้อมล้อมกันเต็มไปหมด
  • ภายหลังจึงทราบว่าอะไรเกิดขึ้น เวลาของนักบินและของผู้โดยสาย เที่ยวบินนั้นได้ขาดหายไป 10 นาที ทั้งๆ ที่ไม่มีใคร รู้เลยว่าเวลา 10 นาทีนั้นขาดหายไปไหน และหายไปได้อย่างไร การสอบสวนไม่ได้ให้ความกระจ่างอะไรเพิ่มเติม นอกจากจะเพิ่มความงุนงงมากขึ้นเท่านั้น “มันแปลกอยู่หน่อยที่เมฆก้อนนั้นมันมีความสว่างผิดปรกติธรรมดา คล้ายกับว่ามันมีแสงเรืองในตัวเอง แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรเลย ผมไม่เข้าใจว่าเวลามันหายไปตอนไหน เจ้าหน้าที่หอบังคับการเขาว่าผมบินหายเข้าไปในเมฆนานถึง 10 นาที แต่มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะเมฆมันก้อนเล็กนิดเดียว ผมบินทะลุเมฆลงมาในเวลาไม่ถึง 3 วินาทีก็ออกมาเป็นทางวิ่งลงแล้วนี่ครับ”ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display (3)
ผลจากการสแกนพื้นทะเล พบซากเรือขนาดใหญ่ประจัดกระจายเต็มพื้นที่
อีกมุมมองหนึ่งของ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์?
1. บางคนคาดว่า : การหายสาบสูญนั้นอาจเกิดจากเรื่อเหล่านั้นแล่นไปชนเอาทุ่นระเบิด(ที่หลงเหลือจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง)
  • คำโต้แย้ง : แนวคิดข้อนี้ดูจะเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมันไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ประหลาดอีกหลายกรณีได้เลย เช่น ในกรณีที่เรือเดินทะเลบางลำลอยเท้งเต้งเข้าหาฝั่ง โดยที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บนเรือนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ข้าวของและของมีค่าอื่นๆ ยังอยู่ครบบริบูรณ์บนเรือ กะลาสีเรือและกัปตันเรือหายตัวไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างนี้จะอธิบายได้อย่างไรละ
2. บางคนคาดว่า :? การหายสาบสูญของเรือ อาจเกิดจากพายุในทะเลที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลัน
  • คำโต้แย้ง :?ไม่มีวันที่พายุใหญ่ๆ ขนาดนั้นจะรอดสายตาของนักอุตุนิยมวิทยาไปได้ และอย่างน้อยเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ๆ ก็มีเครื่องมือตรวจพายุอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีการส่งขาว รายงานเข้าสู่ฝั่ง หรือวิทยุขอความช่วยเหลือมาบ้างถ้าเจอเข้ากับพายุใหญ่ขนาดที่จะจมเรือเดินสมุทรได้
3. บางคนคาดว่า :?มันเป็นเรื่องความเชื่อ อันเกิดมาจากเหตุบังเอิญด้วยเหตุพ้องจองที่ว่า แถบเบอร์มิวด้า มีภาวะแวดล้อมที่ผิดแผกไปจากบริเวรเส้นทางเดินเรืออื่นๆ เท่านั้นเองจึงทำให้เกิดความผิดพลาดและเกิดอุบัติเหตุทางเรือได้ง่าย เป็นเหตุให้เกิดเรืออับปาง และเครื่องบินตกได้ง่ายกว่าที่อื่น
  • คำโต้แย้ง :? แต่ในกรณีเรือ ไซคล๊อปส์ หายไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1918 จู่ๆ มันก็ปรากฏตัวลอยเท้งแต้งเข้าฝั่งมาเกยตื้น โดยมีแต่เรือเปล่าปราศจากผู้โดยสาร จำนวน 309 คนหายไปไหนกันหมด ข้าวของมีค่าทุกชิ้นทั้งอาหารและสินค้าบนเรือยังอยู่บริบูรณ์ จะว่าเรือถูกโจรสลัดปล้นก็ไม่ใช่
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthaiimages
4. ทฤษฎีการบ่ายเบนของสภาพเวลาอวกาศ?ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน (Dr” Sanderson Ivan) เป็นผู้เสนอแนวความคิดนี้ขึ้น
  • เขียนไว้ในหนังสือชื่อ “Invisible Residents” ทฤษฎีนี้กล่าวสรุปว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มี “สาเหตุไม่ปกติ” ทางธรรมชาติเกิดขึ้นเนื่องมาจากเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลก และสนามไฟฟ้าของโลกมากที่สุด
  • เมื่อมีกระแสน้ำอุ่นจาก ตอนเส้นศูนย์สูตรไหลขึ้นไปทางเหนือของมหาสมุทรแอรแลนติก ปะทะกับกระแสน้ำเย็นที่ไหลลงสู่ทางใต้จากขั้วโลกเหนือการปะทะกัน ทำให้เกิดการแบ่งตัวกันของระดับน้ำเป็นชั้นๆ ชั้นบนจากผิวน้ำลงไปสู่ความลึกประมาณ 500 ถึง 1,000 ฟุต จะเป็นชั้นของกระแสน้ำอุ่น ลึกลงไปจากนี้ก็จะเป็นชั้นของกระแสน้ำเย็น ทั้งสองชั้นนี้มีทิศทางการไหลของน้ำสวนทางกัน ซึ่งอยู่ในระดับความลึก 500 ถึง 1,000 ฟุต จะเกิดการอันแน่นของกระแสน้ำ มีการขัดถูกัน และมีการถ่ายเทอุณหภูมิกันอย่างมกมาย เกิดการถ่ายถ่ายเทขัดสีกันของประจุไฟฟ้าสถิตขึ้นอย่างมากมาย เป็นจำนวนมหาศาลหลายพันล้านโวลต์ จึงเกิดการเหนี่ยวนำของสนามไฟฟ้าเป็นผลกระบตามมา ประกอบกับการผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในบริเวณนี้
  • การผันแปรของสนามแม่เหล็กโลก และสนามไฟฟ้าอาจมีการแปรผันสัมพันธ์กัน นำไปสู่ภาวะการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นชั่วคราว กระทบกระเทือนกับสนามแรงโน้มถ่วงของโลกในบริเวณนั้น และนี่คือผลกระทบทีทำให้เกิดการบ่ายเบนของสภาพเวลา-อวกาศ เมื่อสาเหตุไม่ปกตินี้เกิดขึ้น ก็จะทำให้เรือหรือเครื่องบินที่บังเอิญอยู่ตรงบริเวณนั้นในขณะนั้น แล่นหรือบินออกจากจุดแห่งความแตกต่างของห้วงกาลเวลา หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าได้ว่าบริเวณนั้น มีการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ 4 เกิดขึ้น เรือหรือเครื่องบินก็ตาม อาจหลุดหรือผ่านเข้าไปสู่อีกมิติหนึ่ง หรืออีกกาลเวลาหนึ่งก็ได้และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรือ เครื่องบินหายวับไปโดยปราศจาร่อง
แต่ใครละจะกล้าพิสูจน์ว่าทฤษฎีนี้เป็นจริงความเป็นไปได้ ของการบ่ายเบนของมิตินั้นก็เป็นทฤษฎีที่มีตัวเลขยืนยันคำนวณกันแต่บนกระดาษ แต่ในความเป็นจริงแล้วทฤษฎีนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าทดลองเพื่อยืนยัน
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthaisanderson
?ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน (Dr” Sanderson Ivan)?
5. กรณีที่มีเครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ชัวระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็กลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง?
  • นอกจากนี้ ทฤษฎีของ ดร.แซน เดอร์สัน ยังสามารถใช้อธิบายในกรณีนี้ได้ เพราะเหตุที่ว่าเครื่องบินเหล่านั้น ได้บังเอิญบินหลุดเข้าไปในความแปรผันของสนามเวลา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติขึ้นในทันทีทันใด จุดแปรผันของกาลเวลานาอาจเป็นเพียงบริเวณเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเพียงชัวครู่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นดังนั้นจึงมิได้ทำให้เครื่องบินนั้นเคลื่อนย้ายออกไปจากมิติ หรือกาลเวลาปัจจุบันมากนัก ระยะเวลาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินอาจจะเป็นชั่วระยะสั้นๆ แค่ 1 ในพันของวินาที หรืออาจจะไม่ถึงพริบตา แต่จะทำให้เกิดความแตกต่างกันกับเวลาบนโลกนับได้เป็นนาที หรือชั่วโมงก็เป็นได้
  • และก็ด้วยการแปรผันอย่างรุนแรงของสภาพมิติ ในบางครั้ง มันก็อาจทำให้เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ หรือเครื่องินทั้งฝูงหลุดเข้าไปสู่อีกห้วงหนึ่งของกาบเวลาที่ไม่ใช้ปัจจุบัน และผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นก็จะติดอยู่ในห้วยแห่งกาลเวลานั้นโดยไม่มีทางได้กลับออกมาสู่มิติเดิมของเขาได้อีกเลย
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai7178030192_1a58b07694
6. บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นที่ตั้งฐานทัพลับใต้สมุทรของชนชาติลึกลับ หรือของพวกมนุษย์ต่างดาว
  • บางคนคาดว่า?:?การหายไปของเรือและเครื่องบิน อาจเกิดจากการจงใจ “ขโมย” เรือหรือเครื่องบินรวมทั้งการลักพาคนไปเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการทดลอง หรือเพื่อการเก็บไปเป็นตัวอย่างดูเล่นก็เป็นได้ แนวความนึกคิดทำนองนี้ อาจมีทางเป็นไปได้อย่างเหมือนกันผู้ที่ค้นคว้าศึกษาตามแนวทางนี้โดยเฉพาะจะพบว่า ย่านท้องทะเลแอตแลนติก แถบหมู่เกาะเบอร์มิวด้านี้มีรายงานการปรากฏตัวของ ยูเอฟโอ (UFO) หนาแน่นพอๆ กับที่เห็นบนบกตามจุดสำคัญๆ เหมือนกัน
  • คำโต้แย้ง : แต่ปัญหาสำคัญคือ ทฤษฎียังไม่มีหลักฐานอย่งอื่นที่พอจะอ้างได้หรือนำมาชี้ทางสนับสนุไดว่า ยูเอฟโอ มีอะไรเกี่ยวข้อกับการศูนย์หายไปของเรือและเครื่องบิน การปรากฏตัวอย่างหนาแน่นของยูเอฟโอในย่านนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีฐานทัพเร้นลับซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทร หรือบนเกาะร้างลี้ลับแห่งใดแห่งหนึ่ง และก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่มนุษย์ต่างดาวจะต้องมาตั้งป้อมคอยขโมยเรือ และเครื่องบิน ของชาวโลกไปมากมายเพื่อประโยชน์อันใดกัน
  • ในกรณีนี้แนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านั้นเป็นบริเวณที่มีสภาวะผิดปกติทางสภาพเวลา – อวกาศตามทฤษฎีของ ดร.แซนเดอต์สันมากกว่าและยูเอฟโอ ที่มาปรากฏตัวในบริเวณนี้มากนั้นก็เนื่องมาจากว่า ยูเอฟโอใช้บริเวณนี้มากนั้นก็เนื่องมาจากว่า ยูเอฟโอใช้บริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกระหว่างมิติภพ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิด้า อาจเป็นบริเวณที่มีการเปิดปิดประตูแห่งกาลเวลา หรือประตูแห่งมิติ โดยธรรมชาติก็ได้.. มันหมายถึงช่องทางที่จะใช้เดินทางผ่านเข้าออกไปสู่ย่าน “ไฮเปอร์สเปซ” นั่นเอง
  • รัฐบาลอังกฤษจึงได้ออกทุนให้ค้นหาเรือ และหาสาเหตุที่ทำให้เรือจม โดยใช้ เรือทุ่นโซนาร์ลากท้าย?ค้นหา หลังจากตรวจจับบางอย่างใต้ทะเลขนาดใหญ่ได้ จึงได้ส่งยานดำน้ำไร้คนบังคับ แมกเจนแลนออกไปถ่ายรูปและได้เจอเรือสภาพแตกหักยับเยินนอน อยู่ก้นทะเล
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display (2)
เรือทุ่นโซนาร์ลากท้าย

แต่เมื่อไม่กี่ที่ผ่านมา ทุกอย่างก็ตลี่คลาย!!!

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ การก่อตัวของก๊าซธรรมชาติ โดยเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ ทำให้เรือและเครื่องบินเสียการควบคุม ก่อนที่จะจมดิ่งสู่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งศาสตราจารย์โจเซฟ โมนาแกน หนึ่งในสองผู้วิจัยงานศึกษาไขปริศนาดังกล่าว เสริมว่า บริเวณนั้น มีก๊าซมีเทนจำนวนมากปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดใหญ่ แล้วแตกตัวเหนือบริเวณดังกล่าว
เมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้าง แล้วก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ หากเรือลำใดแล่นผ่านมายังบริเวณนั้น แน่นอนว่าเรือก็จะเข้าไปในฟองก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ จนทำให้เรือเสียการควบคุม และจมสู่ทะเลในที่สุด
รายงานยังระบุว่า หากฟองก๊าซมีขนาดใหญ่มากๆ ครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงเพียงพอ ยังสามารถทำให้เครื่องบินที่อยู่บนน่านฟ้า เหนือสามเหลี่ยมฯ เสียการควบคุม และดิ่งสงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว