วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

15 ประเทศสงบสุขที่สุดในโลก

Lg-Most Peaceful Countries15 ประเทศสงบสุขที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ Institute for Economics and Peace ซึ่งในทุกวันที่โลกภายนอก สภาพอากาศ สิ่งต่างอาจจะดูโหดร้ายไป แต่ยังมีบางประเทศที่ยังคงความสงบ 
อันดับที่ 1 ประเทศเดนมาร์ก เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีการปกครองระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป แต่ยังไม่เข้าร่วมใช้สกุลเงินยูโร เดนมาร์กเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ เดนมาร์กคือหนึ่งในประเทศที่ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม นอกจากนี้ยังเป็นรัฐสวัสดิการขนาดใหญ่ที่มีสวัสดิการแก่ประชาชนมากมาย อีกทั้งยังติดอันดับประเทศที่มีรายได้เข้าประเทศในอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย ประสิทธิภาพทางการตลาดของเดนมาร์กก็อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้มาตรฐานการอยู่อาศัยของเดนมาร์กก็อยู่สูงกว่ามาตรฐานเฉลี่ยของยุโรป

อันดับที่ 2 ประเทศนอร์เวย์ นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีชายฝั่งยาวและเป็นที่ตั้งของฟยอร์ดที่มีชื่อเสียง นอร์เวย์เป็นรัฐสวัสดิการ ซึ่งมีนโยบายที่เน้นการนำรายได้ของรัฐมาสนับสนุนภาคบริการเพื่อเป็นหลักประกันทางสังคมแก่ประชาชนในด้านต่างๆ อาทิ การบริการรักษาพยาบาล การศึกษา การจัดระบบบำเหน็จบำนาญ และการดูแลผู้พิการและผู้สูงอายุ เป็นต้น และยังเป็นประเทศที่มีการพัฒนามนุษย์ในระดับสูง 

อันดับที่ 3 ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่เล็กที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติมากเหมือนประเทศอื่น แต่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี เพราะสิงคโปร์พัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้า โดยเป็นประเทศพ่อค้าคนกลางในการขายสินค้าเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าปลอดภาษี ทำให้สินค้าที่ผ่านทางสิงคโปร์มีราคาถูก ปัจจุบันสิงคโปร์มีท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง สิงคโปร์มีประชากรน้อยจึงต้องพึงพาแรงงานจากต่างชาติในทุกระดับ สิงค์โปร์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีฐานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่มั่งคั่งที่สุดประเทศนึงในโลก 

อันดับที่ 4 ประเทศสโลวีเนีย เป็นประเทศบนชายฝั่งทางใต้ของเทือกเขาแอลป์ ในยุโรปกลางตอนใต้ สโลวีเนียเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรยูโกสลาเวียจนถึง พ.ศ. 2488 ได้กลายเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป เมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 นอกจากความเข้มงวดของบ้านเมืองที่ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่สงบสุขที่สุดของโลกแล้วประเทศสโลวีเนียยังมีเมืองที่เป็นเองลักษณ์ที่ยังคงความสวยงามตามแบบเดิมอยู่หลายเมือง 

อันดับที่ 5 ประเทศสวีเดน เป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมสูงมาก ปัจจุบัน อุตสาหกรรมขั้นสูงเช่นรถยนต์ อากาศยาน อาวุธ และเวชภัณฑ์ เข้ามามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างมาก การที่สวีเดนมีประชากรไม่สูงนัก ทำให้ตลาดภายในประเทศจำกัดและต้องพึ่งพาการส่งออก สวีเดนจึงเป็นแหล่งกำเนิดของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลกจำนวนมาก ดัชนีการพัฒนามนุษย์ โดยสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ  ประเทศสวีเดนอยู่อันดับที่ 5 ของโลกในปี พ.ศ. 2549 

อันดับที่ 6 ประเทศไอซ์แลนด์ มีประชากรประมาณ 300,000 คน มีพื้นที่ประเทศรวม 103,000 ตารางกิโลเมตร นับว่ามีประชากรเบาบาง จากดัชนีการพัฒนามนุษย์ ปี พ.ศ. 2549 ของสหประชาชาติ ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีการพัฒนาสูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ไอซ์แลนด์ยังเป็นประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงามจนเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 

อันดับที่ 7 ประเทศเบลเยียมมีความหลากหลายทางภาษาค่อนข้างสูง ส่งผลต่อระบบการปกครองที่ค่อนข้างซับซ้อน เศรษฐกิจของเบลเยียมมีจุดเด่นคือ ผลิตภาพของแรงงาน รายได้ประชาชาติ และการส่งออกต่อประชากรสูง การส่งออกของเบลเยียมคิดเป็นมากกว่าสองในสามของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีเอ็นพี) โดยเบลเยียมได้เปรียบจากตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ในศูนย์กลางพื้นที่ที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจสูง 
อันดับที่ 8 สาธารณรัฐเช็ก เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อยู่ในภูมิภาคยุโรปกลาง พรมแดนทางตอนเหนือจรดประเทศโปแลนด์ ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือจรดเยอรมนี ทางใต้จรดออสเตรีย และทางตะวันออกจรดสโลวาเกีย โดยสาธารณรัฐเช็กมีการพัฒนามนุษย์ที่สูงมาก นอกจากนี้เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กอย่างกรุงปรากยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วย 

อันดับที่ 9 ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตก โดยมีพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส ประเทศอิตาลี ประเทศออสเตรีย และประเทศลิกเตนสไตน์ นอกจากจะมีความเป็นกลางทางการเมืองแล้ว เป็นประเทศที่มีการร่วมมือกันระหว่างประเทศต่างๆเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรนานาชาติหลายแห่ง และมีปัญหาอาชญากรรมที่รุนแรงก็มีน้อยมาก จึงทำให้เป็นประเทศที่มีความสงบมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

อันดับที่ 10 ประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดก็คือเกาะฮนชู ฮกไกโด คีวชู และชิโกกุ ตามลำดับ เกาะของญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นหมู่เกาะภูเขา ซึ่งในนั้นมีจำนวนหนึ่งเป็นภูเขาไฟ เช่นภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ ประชากรของญี่ปุ่นนั้นมีมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก คือประมาณ 128 ล้านคน ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ โดยมีจีดีพีสูงเป็นอันดับสามของโลกในปี พ.ศ. 2553 และมีความตื่นตัวที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ ญี่ปุ่นมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดี

อันดับที่ 11 ประเทศไอร์แลนด์ นับเป็นสมาชิกที่อยู่ไกลสุดทางตะวันตกของสหภาพยุโรป มีประชากร 4 ล้านกว่าคน เป็นประเทศบนเกาะไอร์แลนด์

อันดับที่ 12 ประเทศฟินแลนด์ เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ฟินแลนด์มีประชากรเพียง 5 ล้านคน ในพื้นที่ 338,145 ตารางกิโลเมตร นับว่ามีประชากรที่เบาบาง แต่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ตามสถิติของสหประชาชาติ พ.ศ. 2549 อยู่ในลำดับที่ 11 ระบบการศึกษาของฟินแลนด์เป็นการศึกษาที่ดีอันดับที่ 5 ของโลก

อันดับที่ 13 ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ รวมถึงเกาะเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ – นิวซีแลนด์มีเมืองหลวงชื่อเวลลิงตัน นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ห่างไกลจากประเทศอื่น ๆ มากที่สุด นิวซีแลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่มีการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวมักเป็นการเที่ยวชมธรรมชาติที่หลากหลาย ชาวนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ได้รับอารยธรรมอังกฤษแทบทั้งสิ้น การแต่งกายจะดูคล้ายชาวอังกฤษทางตอนเหนือ มีภาษาอังกฤษและภาษาเมารีเป็นภาษาประจำชาติ
อันดับที่ 14 ประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ทางเหนือมากที่สุดของโลกและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แคนาดาเป็นประเทศเดียวในกลุ่มจี 8 ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศที่มีมาตรการการค้าที่เสรีและโปร่งใสมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แคนาดาเป็นประเทศที่สงบเงียบ ปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกันมีสภาพเศรษฐกิจดี รัฐบาลแคนาดาใส่ใจความเป็นอยู่ของประชากรอย่างมากดังนั้นการศึกษาในประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก

อันดับที่ 15 ประเทศออสเตรีย เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปกลาง มีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็ก ทางตะวันออกจรดสโลวาเกียและฮังการี ทางใต้จรดสโลวีเนียและอิตาลี และทางตะวันตกจรดสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ออสเตรียเริ่มแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และได้พัฒนาเศรษฐกิจแบบตลาดได้สำเร็จซึ่งทำให้ประชาชนมีมาตรฐานความเป็นอยู่สูง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น