เรื่องและภาพ: กรกช นาวานุเคราะห์

ยิ่งเดินลึกเข้าไปในถนนแคบๆ ของเมืองเก่าฮอยอัน ยิ่งเหมือนกำลังย้อนเวลาไปหาอดีต บ้านทรงเตี้ยเรียงแถวสองฝั่งทางเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานของจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งยังคงสภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่เช่นครั้งเมื่อฮอยอันเป็นเมืองท่าสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16-17
ปัจจุบันฮอยอันแปรสภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนกลางของเวียดนาม นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อยลโฉมตึกเก่าสีเหลืองที่ได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมเป็นอย่างดี สมกับที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก ปีพ.ศ.2542

อาคารภายในเมืองเก่าส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง เพราะสมัยก่อนสีทาบ้านหายาก จึงใช้ดินเหลืองมาทาผสมปูนฉาบตัวบ้าน จนได้รับความนิยมมาจนทุกวันนี้

วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเมืองฮอยอัน และบ้านเมืองเก่าตั้งแต่สมัย 400 ปีที่แล้วแปรสภาพเป็นแหล่งบริการสำหรับการท่องเที่ยวตามสูตร เช่น อาร์ตแกลเลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ และโรงแรม

เมืองเก่าฮอยอันไม่ใหญ่นัก สามารถเดินทอดน่องหรือปั่นจักรยานเที่ยว ไม่กี่ชั่วโมงก็เที่ยวทั่วแล้ว

อยากสัมผัสวัฒนธรรมการกินอยู่ของชาวฮอยอันแท้ๆ ต้องไม่พลาดตลาดสดที่เรียงรายไปด้วยอาหารพื้นเมือง

เมืองท่าฮอยอันในอดีตเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ภายหลังที่แม่น้ำเริ่มตื้นเขินจนเรือเดินสินค้าไม่สามารถจอดเทียบท่าได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ฮอยอัน แต่อย่างไรก็ดี แม่น้ำทูโบน ยังคงทำหน้าที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวฮอยอันอยู่เรื่อยมา

สะพานญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมือปี พ.ศ.2133 โดยชุมชนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองฮอยอัน เพื่อแบ่งการเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นกับชาวจีน เอกลักษณ์เฉพาะของสะพานคือมีหลังคาอยู่ด้านบน ขวามือของสะพานมีวัดญี่ปุ่น ที่พึ่งทางใจของชาวเรือทุกสัญชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น